ROOT IF : AA







ROOT IF : AA


เอิน (Ma Beauty) & เจย์ (P.B.B.)

           


            เที่ยงคืนยี่สิบห้านาที จากัวร์สีดำคันงามเลี้ยวเข้ามาจอดในคอนโดหรูแห่งหนึ่งอย่างเงียบเชียบ ท่อนขาใต้กางเกงแสลคราคาแพงก้าวยาวๆเข้าลิฟต์วีไอพีที่มีไว้เฉพาะคนที่พักในชั้นบนๆเท่านั้นเพื่อขึ้นไปที่ชั้นสูงสุด แม้ว่าใบหน้าขาวจะเรียบเฉย แต่ภายใจในกลับเต้นไม่เป็นส่ำ

            ชายหนุ่มวัย 24 หายใจถี่ๆในขณะที่เดินไปที่ห้อง ในหัวพยายามคิดหาคำที่ดีที่สุดที่จะใช้อธิบายสถานการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น พร้อมๆกับการภาวนาให้การติดต่อซื้อขายคลิปนั้นสำเร็จก่อนที่มันจะถูกเผยแพร่ถึงมือของเด็กมัธยมปลายบางคน..

เขาหวังว่าเขาจะทัน...








            แน่นอนว่าเมื่อเปิดประตูเข้าไป สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือร่างสูงเพรียวของใครบางคน – ที่แรงไม่เพรียวตามร่างเลยแม้แต่น้อยนั่งไขว่ห้างอยู่ที่หน้าทีวี บนตักมีแลปทอปบางเฉียบหนึ่งเครื่องที่เขาเห็นอีกคนใช้ประจำวางอยู่อย่างเรียบร้อย ใบหน้าขาวนั่นไม่ปรากฏอารมณ์ด้านลบอย่างที่นึกกลัว ยังคงหันมาส่งยิ้มนิดๆให้เขาเหมือนปกติ

            ซูเปอร์สตาร์หนุ่มลอบถอนหายใจเบาๆ แทบจะทรุดลงกับพื้นพรมหน้าประตูอย่างโล่งใจ นึกขอบคุณจินยองที่ติดต่อไปซื้อไอ้คลิปนรกนั่นเอาไว้ได้ทันภายในเวลา 20 นาทีหลังจากถูกปล่อย ก่อนจะพาร่างสะโหลสะเหลของตัวเองที่กรำงานตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเข้าไปที่โซฟา พาดแขนโอบรอบไหล่ของเด็กหนุ่มเอาไว้ ซุกหน้ากับซอกคอขาวๆอย่างหมดแรง



            “กลับมาแล้วครับ..”
            “เหนื่อยจังเลยเอิน วันนี้งานเยอะมากเลย”

            คนถูกกอดจากข้างหลังเพียงแค่อมยิ้มนิดๆ ตบที่ว่างบนโซฟาข้างตัวเป็นเชิงเรียกให้ไปนั่งด้วย ซึ่งคนอายุมากกว่าก็ทำตามอย่างว่าง่าย หย่อนตัวลงนั่งพลางเอนหัวพิงไหล่ของอีกฝ่าย กะว่าจะอ้อนอีกสักสองสามประโยคแล้วจะไปอาบน้ำพักผ่อนเสียที
แต่ทันทีที่เขาก้าวเข้าไปประชิดตัวอีกฝ่ายได้เท่านั้น ปลายนิ้วเรียวของเด็กหนุ่มก็กดปุ่มเพลย์ พร้อมกับคลิปวีดีโอสั้นๆความยาวไม่ถึงนาที ดูแล้วน่าจะถ่ายจากระยะไกล แต่กลับมีภาพที่ชัดเจนราวกับไปยืนถ่ายอยู่ข้างๆกันโชว์หรา ซึ่งเนื้อหาสาระของไอ้คลิปนั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกเสียจาก...


            ภาพของเจย์ หวัง และดาราสาวชื่อดังที่เดินออกมาจากโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง


คนในภาพกลืนน้ำลายฝืดคอทันทีที่เห็น ก่อนที่ใบหน้าขาวจะยิ่งซีดเข้าไปใหญ่ในตอนที่เห็นแฟนเด็กของตนเองหันมาหา ฉีกยิ้มหวานหยดจนรู้สึกเสียวสันหลังวูบๆ




“พี่เจย์...อธิบายเรื่องนี้ได้มั้ยครับ?”






-----------------------------








            "อึก...!!"


            เสียงในลำคอของเจ้าของห้องในคอนโดหรูฟังดูอู้อี้กว่าปกติ สาเหตุนั้นก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าใบหน้าที่ซุกลงอยู่กับหมอนจนแทบมิด กระนั้นริมฝีปากที่ช้ำแดงยังคงร้องเบาๆทุกครั้งที่ฟันคมๆงับลงมาที่แผ่นหลัง และกัดย้ำราวกับว่าจะให้รอยนั้นฝังลึกลงไปหนักกว่าเดิม


            เจย์ หวัง เลิกนับแล้วว่ามันเป็นรอยที่เท่าไหร่ แต่ตั้งแต่ถูกบังคับให้มาอยู่บนเตียงได้ เอินก็กัดเขาไม่เลิก และต่อให้เขายืนยันว่าเขาจะต้องไปถ่ายแบบในอีกสองวันข้างหน้า เจ้าของเขี้ยวคมก็ไม่เคยปรานีปราศรัย ทั้งกัด ทั้งจูบจนเป็นรอยเต็มไปหมด อย่าว่าแต่ข้างหน้าเลย ข้างหลังก็ไม่เว้น แน่นอนว่าข้างล่างเองก็เหมือนกัน... ทุกที่เต็มไปด้วยรอยฟันของเด็กหนุ่มขี้หวง สลับกับคิสมาร์คสีแดงช้ำที่ประปรายอยู่ทั่วอย่างจงใจ

            ...ไม่อยากจะคิดเลยว่าโคดี้จะมองเขาด้วยสายตาแบบไหน



            อะ—อืม..” ตากลมโตหยีลงนิดๆเมื่อถูกกัดซ้ำที่ผิวอ่อนบริเวณต้นคอ ลมหายใจร้อนที่เป่ารดทำเอาขนลุกซู่ เช่นเดียวกับฝ่ามือนิ่มที่ไล้ลงบนต้นขา ลูบสัมผัสรอยที่ปรากฏชัดตรงนั้นซ้ำๆ เช่นเดียวกับหน้าอกที่ถูกกัดงับซ้ำแล้วซ้ำอีกจนร้อนไปหมด และรู้สึกง่ายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าจนเขาถึงกับสะดุ้งในตอนที่ถูกบีบคลึงซ้ำ ราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่าน ร่างกายของเขาสั่นระริกจนไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเกร็งต้านและทรุดตัวฝังหน้าลงกับหมอนมากกว่าเดิม

            อา...”

            “เอิน.. อ้ะ..เจ็บ...”


            เสียงอู้อี้กระซิบพร่า เช่นเดียวกับน้ำตาที่รื้นขึ้นมานิดๆจากความแสบ และนั่นทำให้ร่างกึ่งขาวกึ่งแดงนั้นถูกประคองให้พลิกหงายอีกครั้ง ก่อนที่ปลายนิ้วเรียวจะเอื้อมมาปาดน้ำตาออกให้อย่างเบามือ และปัดเสยเส้นผมที่ปรกหน้าผากออกให้อย่างถนอม

            “เจ็บมากเลยเหรอครับ?” 

            ถามเสียงนุ่ม เช่นเดียวกันกับจูบที่แตะลงมาที่ข้างแก้ม แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้คนที่ถูกกัดจนลายไปทั้งตัวรู้สึกโล่งใจขึ้นอย่างที่เป็น กลับกัน ความอ่อนโยนของเด็กตรงหน้านั่นแหละที่ทำให้เขารู้สึกอกสั่นขวัญแขวน หายใจไม่ทั่วท้องจนน้ำตาพาลจะไหลอีกรอบให้ได้


            “ไม่ร้องครับ... ไม่ร้อง..”

            “เอินไม่กัดแล้วนะ”


            จูบนุ่มนวลบนหน้าผากกับเสียงเหมือนจะปลอบเด็กน้อยนั่นยิ่งทำให้น้ำตาของชายหนุ่มไหลหนักกว่าเดิมอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่รู้ว่าด้วยความกลัวหรืออะไร แต่ร่างขาวๆนั่นกลับไม่หยุดสั่น  เดือดร้อนเด็กหนุ่มต้องประคองขึ้นมากอดแน่นๆ กระซิบเสียงนุ่มที่ข้างหูพร้อมกับการลูบหลังเหมือนกับเวลาปลอบเด็กเล็กๆ


            “ถึงจะบอกว่าเป็นฝ่ายถูกชวน...  แต่เอินก็ไม่ชอบอยู่ดี”

            “หวงมากนะครับ..รู้มั้ย?”


            คนที่น้ำตายังไม่หยุดไหลดีสูดหายใจเฮือกใหญ่ พยักหน้าขึ้นลงน้อยๆเป็นการรับคำแม้จะไม่ตอบอะไรออกมา ตากลมโตที่มีน้ำตาเม็ดโตคลออยู่ดูน่าสงสารจับใจ  ก่อนจะซุกหน้าเช้ากับผิวเปลือยของเด็กหนุ่มตรงหน้าเพื่อหลบสายตา แม้ว่าแขนทั้งสองข้างจะโอบรอบร่างเพรียวๆนั่นไว้แน่นก็ตาม





            เจ้าของตาคมเหลือบมองคนที่ซุกอยู่กับอกตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย แต่ชัดเจนที่สุดคือความจริงจังในแววตา ที่ไม่เคยคิดจะอ่อนข้อให้กับความเจ้าสำราญของคนรัก หรือใครก็ตามที่เข้ามาใกล้บุคคลในอ้อมกอดเกินความจำเป็น 

            แม้จะรู้สึกผิดอยู่บ้างที่ทำให้อีกคนถึงกับร้องให้...แต่ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็ไม่ได้เหมือนกัน




            “ของๆเอิน...เอินหวง.
             
“เอินไม่ชอบให้ใครมาแตะหรอกนะครับ..”








ถ้าจะต้องทนเห็นอีกฝ่ายมีคนนั้นคนนี้เข้าหาไม่ซ้ำหน้า หรือถูกแตะเนื้อต้องตัวขนาดนั้นแล้วล่ะก็...



...ให้กลัวเขาซะยังดีกว่า





----------------------------






Comments