TELL HIM #1.5




CUT SCENCE
TELL HIM #1.5




ผมไม่สนใจแล้วว่าจะต้องใช้อะไรในการห้ามไม่ให้เขาพูดคำนั้นออกมา รีบเร่งปลดเข็มขัดตัวเองพลางรูดมันลงไปพร้อมกับท่อนล่างทั้งหมด มืออีกข้างก็ปลดกระดุมเม็ดบนออกพร้อมกับถอดมันและเหวี่ยงไปบนพื้นอย่างไม่สนใจ ขยับร่างเข้าหาอีกฝ่ายที่ยังคงนั่งนิ่ง บดเบียดตัวเองกับร่างกายอุ่นๆที่ทำเพียงโอบกอดผมไว้หลวมๆอย่างเรียกร้อง
เป็นผมเองอีกนั่นแหละที่จัดการทุกอย่าง สัมผัสเขาอย่างเร่งเร้าเพื่อให้สายตาคมไม่ละจากผมไปไหน ขยับตัวอยู่บนหน้าขาแข็งแรงเพียงเพื่อจะขอให้อ้อมแขนนั่นไม่คลายออกจากเอวผม หรือแม้กระทั่งครวญครางเป็นชื่อเขาซ้ำๆเพื่อให้เขารู้ว่าผมขาดเขาไม่ได้
     
            ...คอมฟอร์ทโซนเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตผม

            ต่อให้ผมต้องทิ้งทุกอย่าง ความฝัน ชื่อเสียง อิสระ หรืออะไรก็ช่าง
แค่มีเขาอยู่กับผมเท่านั้น



            น้ำตาที่ทำอย่างไรก็ไม่อาจจะหยุดไหลกลับแห้งลงอย่างง่ายดายเมื่อริมฝีปากนั้นจูบซับลงมา เขารวบเอวผมให้อยู่นิ่งๆ ก่อนจะประคองให้นอนราบลงอย่างนิ่มนวล เผยรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปากให้ได้ใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนที่ความรุ่มร้อนนั้นจะเบียดดันเข้ามาอีกครั้ง ลึกจนเผลอส่งเสียงอย่างไม่ได้ตั้งใจ
     
            “...ทำได้แน่นะ?” 
            เขาถามด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง ตอนนั้นผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาหมายถึงอะไร แต่ก็พยักหน้าแบบไม่ต้องคิด ไม่ว่าจะอะไรผมก็ยอมทั้งนั้น “ไม่เสียดายเหรอ?”
     
            “มะ..อ๊ะ...” สัมผัสหนักๆที่คลึงลงบนสะโพกทำให้ผมต้องหลับตาแน่น มันทั้งรู้สึกดี ทั้ง...รู้สึกวูบๆวาบๆยังไงชอบกล ยิ่งในตอนที่อีกคนโยกสะโพกไปมาแบบนั้นแล้ว ลมหายใจของผมยิ่งขาดห้วงไปทุกขณะ ตาไม่อาจจะจ้องไปที่อีกคนได้อย่างเคย สะโพกขยับไหวไปตามสัญชาตญาณและความร้อนที่สุมอยู่ข้างใน “ไม่.. อื้ออ..”
            “ถ้าพี่จะ...อืม.. อยู่กับผม..”
            “ผม.. อะ— อ๊ะ!...


     
            สัมผัสที่เกิดขึ้นในจุดแปลกๆทำเอาผมผวาเฮือก เกือบจะถดตัวหนีความรู้สึกที่ดี...แต่ก็น่ากลัวไปพร้อมๆกัน แต่เมื่อหันไปสบตากับเจ้าของรอยยิ้มตรงหน้า สมองก็กลับสั่งให้ผมขยับกลับเข้าไปอยู่ที่เดิม หลับตายอมรับสัมผัสที่ดีจนเกินกว่าจะรับไหวด้วยตนเองอย่างเต็มใจ
     
            “...ชอบตรงนี้เหรอ?”
            ผมพยักหน้า แม้ว่าน้ำตาจะเริ่มรื้นขึ้นมาอีกครั้งจากความรู้สึกที่เต็มตื้น พื้นที่ด้านในที่ถูกเติมเต็มตอบสนองดีเกินไปจนอึดอัด แต่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ดีจนไม่อาจปฏิเสธได้ ผนังด้านในบีบรัดอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่งตามอารมณ์ที่กำลังจะปะทุ
            “พี่...” 
            ผมร้องขอเมื่อเห็นว่าเขายังไม่ยอมขยับไปไหน ฝ่ามือใหญ่นั่นเอาแต่บีบคลึงไปตามเนื้อตัวของผม เช่นเดียวกับริมฝีปากหยุ่นที่จูบไซ้ไปทุกที แต่กลับเว้นพื้นที่ที่ทำให้ผมหายใจขาดห้วงเอาไว้อย่างจงใจ 
            “พี่มาร์ค...”
            ผมตั้งท่าจะขยับเองอีกครั้งแม้ว่าจะท่าทางจะไม่อำนวย แต่ทว่ามือคู่นั้นกลับห้ามผมเอาไว้ จับข้อมือผมให้ไปวางอยู่บนขาของตัวเอง 
            เพียงแค่นั้นผมก็รู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร..

     

            ผมกลืนน้ำลายฝืดคอ มองสายตาคมที่จับจ้องอยู่ในทุกอิริยาบถแม้ว่าตนเองจะอยากมุดหายไปจากตรงนี้ มือสอดเข้าใต้ข้อพับเข่า เปิดทางให้ท่อนขาของตัวเองอ้ากว้างขึ้นอีกนิด พร้อมๆกับเขาที่ขยับตัวเข้าได้ลึกขึ้น ร้องครางอย่างไม่ปิดบังเมื่อเขาเข้ามาจนสุด
            มือและขาผมสั่นระริกจากแรงอารมณ์ แต่ทุกๆครั้งที่เขาขยับ ผมก็พยายามที่สุดที่จะจับให้มันอยู่นิ่ง เปิดทางให้อีกคนได้เข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า ความเร็วที่เพิ่มขึ้นทุกขณะจิตทำเอาสติของผมเริ่มจะหายไป ไม่รู้สึกตัวอีกต่อไปว่าต้องทำอะไรนอกจากรับสัมผัสที่อีกฝ่ายมอบให้ เสพติดความร้อน สายตา และน้ำเสียงแหบต่ำของอีกคนที่มีไว้เพื่อผมเพียงคนเดียวในเวลานี้ จนกว่ามันจะฝังลงไปในจิตใต้สำนึก หรือจนกว่าร่างกายของผมจะไม่สามารถรับมันได้อีกต่อไป





Comments