ROOT IF : D








ROOT IF : D

มาร์ค (P.B.B.) & กากา (Ma Beauty)








            ตีห้าสามสิบเจ็ดนาที...


            นั่นเป็นเวลาที่มาร์คมักจะกลับถึงห้องพักหลังจากเลิกงาน คนทำงานกลางคืนก็คงแบบนี้... และในสายงานโฮสต์อย่างเขา เวลานี้ถือว่าเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางคนอาจต้องอยู่ถึงเช้า – ซึ่งหมายถึงเจ็ดหรือแปดโมงเพื่อส่งแขก แถมยังไม่ได้ค่า OT อีกต่างหาก



            ร่างสูงโปร่งก้าวยาวๆเข้าไปในส่วนของห้องรับแขก ส่ายหัวให้หมอนอิงมากมายที่กองพะเนินอยู่บนโซฟาและซองขนมกรุบกรอบบนโต๊ะแต่ไม่คิดจะเก็บกวาด เพียงแค่ถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่ใส่คลุมไว้แขวนพาดกับราว สาวเท้าตรงเข้าห้องนอนไปเสียอย่างนั้น

            ก้อนผ้าห่มที่ขดตัวอยู่บนเตียงนอนขนาดกลางนั่นเรียกรอยยิ้มของคนที่เพิ่งกลับมาได้เป็นครั้งแรก อุณหภูมิต่ำของเครื่องปรับอากาศที่เปิดเอาไว้นั่นเองที่เป็นสาเหตุ ชายหนุ่มจึงคลำหารีโมทที่ใกล้แผงควบคุม กดเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นอีกนิดเพื่อให้เด็กน้อยบนเตียงไม่หนาวจนเกินไปนัก






            “ฮื่อ...” คนที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มส่งเสียงงึมงำเมื่อรู้สึกถึงอากาศเย็นๆที่เข้ากระทบผิว แต่ความง่วงก็ทำให้เขาเลือกที่จะไม่ใส่ใจว่าใครเป็นคนดึงผ้าห่มที่คลุมจนมิดหัวของตนเองออก เพียงแค่เบี่ยงหน้าซุกเข้ากับหมอนมากขึ้นเพื่อเพิ่มความอบอุ่นเท่านั้น แล้วก็ผล็อยหลับไปอีกรอบ

            คนที่ตั้งใจจะปลุกหัวเราะต่ำในลำคอขณะที่กดปลายจมูกลงบนแก้มนิ่ม กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่...ยี่ห้อเดียวกับเขานี่แหละ แต่ดึงดูดกว่าตอนที่ใช้เองหลายเท่าติดปลายจมูกขึ้นมา และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ริมฝีปากกดย้ำลงบนผิวขาวไปทั่วทั้งใบหน้าและลำคอที่โผล่พ้นจากผ้าห่ม เสียงร้องประท้วงในลำคอของเด็กที่ถูกกวนเวลานอนจึงได้ดังขึ้นมาอีกรอบ


            “ฮื่ออออออ...จะนอน...”

            คนโดนบ่นอมยิ้มพอใจกับเสียงอู้อี้ที่ฟังแทบไม่ได้ศัพท์นั้นก่อนจะเดินผละออกจากที่นอนไปอาบน้ำ ใช้เวลาไม่นานก็กลับออกมาพร้อมกับกางเกงนอนขายาว... ที่ยอมใส่เพราะถูกเด็กแถวนี้แหวเอาว่าอนาจาร หากเขาจะนอนด้วยโดยไม่ใส่อะไรเลยเหมือนปกติ






            โฮสต์หนุ่มเบียดตัวเองเข้าไปอย่างเงียบเชียบ คราวนี้ไม่มีแม้แต่เสียง หรืออวัยวะใดที่สัมผัสแตะอันจะทำให้อีกฝ่ายรู้ตัว แต่เมื่อเขานอนลงได้แค่ครู่เดียวเท่านั้น เจ้าเด็กก้อนนั่นก็คลายตัว ขยับกลิ้งเข้ามาเบียดอยู่กับอก แถมด้วยแขนขาที่พาดลงมาอย่างไม่เกรงอกเกรงใจนั่นด้วย กลายเป็นว่าชายหนุ่มถูกพันธนาการโดยสมบูรณ์ภายในเวลาไม่ถึงห้านาที

            ...เด็กนี่มันเด็กจริงๆ

            มาร์คอดถอนหายใจให้กับอิสรภาพในการนอนของตัวเองที่ถูกแย่งชิงไปไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม ท่อนแขนที่มีแต่รอยสักยาวเหยียดก็เอื้อมไปรวบเอาเอวนิ่มนั่นเอาไว้ สอดมือลูบผิวเปลือยใต้ชุดนอนอย่างเพลินมือจนเสียงร้องขัดใจในลำคอของอีกฝ่ายดังประท้วง


            “งื้ออออ...”

ชายหนุ่มยิ้มขำกับกิริยานั้น ไม่ปฏิเสธเลยว่าเขาชอบเสียงหงุงหงิงติดรำคาญของเด็กที่นอนไม่เต็มอิ่มแถวนี้เป็นบ้า ได้ยินทีไรก็อดแกล้งไม่ได้ทุกที และเมื่อเป็นแบบนั้นมือที่วางพาดอยู่บนเอวจึงขยับขึ้นมาเกลี่ยเล่นบนแก้มขาวที่เบียดอยู่กับอกเขาจนยู่ 

“...ไม่กวนนนน”

            เจ้าของแก้มนิ่มซุกหน้าหนี แต่มือที่เกาะหนึบนั้นยังคงไม่ปล่อย ซึ่งนั่นก็คงเป็นอีกสาเหตุที่คนนอนหลัง 7 โมงเช้าเป็นต้นไปจะเรียกร้องหาค่าตอบแทนในการทำตัวเป็นหมอนข้างด้วยการก้มลงไปใกล้ งับเบาๆที่ใบหูขณะเรียกชื่อไปด้วยอย่างอารมณ์ดี

            “กากา..”

            “ฮื่ออออออ”

            “อย่าเพิ่งนอนน่า... มาให้หอมก่อน”


            ไม่มีคำตอบใดจากเด็กดื้อที่กลัวจะไม่ได้นอนอย่างสงบสุขจนต้องเงยหน้าขึ้นมาและเอาจมูกดุนไปสุ่มสี่สุ่มห้าตามร่างกายอีกฝ่ายทั้งที่ตาปิด หากไม่ใช่เพราะว่าเป็นคนเส้นลึกชายหนุ่มก็อาจจะขำออกไปแล้ว ก็หน้าตามุ่ยๆนั่นตลกจะตาย..


            “มีเรียนมั้ย?”

            “อือ...”

            “กี่โมง?”

            “...บ่าย”

            “ไปส่งมั้ย?”

            “ฮื่อออ...” 



            คราวนี้ท่าทางจะรำคาญเข้าจริงๆ เด็กก้อนตัวขาวถึงได้บิดตัวหันหลังให้เจ้าของเสียงทุ้มๆที่คอยแหย่ให้เขาไม่ได้นอนอยู่เรื่อย พึมพำบ่นอย่างไม่สบอารมณ์ด้วยเสียงอู้อี้ไม่ได้ศัพท์อยู่ในลำคอ แต่ยังไงก็ไม่สามารถห้ามมือใหญ่คู่นั้นที่คอยโอบเข้าไปหา และริมฝีปากที่พรมจูบลงมาตามหลังคอได้อยู่ดี

            “ฮื้ออออ... จะนอนแล้ววว...”

            “เดี๋ยวก่อนสิ...”


            เสียงทุ้มต่ำกลั้วหัวเราะที่ดังอยู่หลังคอนั่นทำให้เด็กที่ตั้งท่าจะนอนยาวไปถึงเที่ยงในวันพรุ่งนี้แล้วค่อยตื่นไปเรียนรู้ตัวว่าโดนแกล้งอีกแล้ว ถึงแม้จะหงุดหงิด...แต่เขาก็พอจะเข้าใจได้แหละนะว่าอีกคนแค่อยากหาเรื่องอ้อนเขาเท่านั้น เล่นทำงานสวนกับเวลาว่างของเขาขนาดนี้ เรื่องจะมีเวลาคุยกันดีๆน่ะหายากจะตายไป..

            แต่ถ้าจะให้เขาถ่างตาขึ้นมาคุยเพราะเหตุผลนั้นน่ะ... ไม่เอาด้วยหรอกนะ





            คนอายุน้อยกว่าถอนใจเฮือก ขยับพลิกตัวอีกครั้งเข้ามาซุกอยู่ในระยะอ้อมแขนที่คุ้นเคย แน่นอนว่าแขนขาน่ะต้องพาดไปตามตัวอีกคนอย่างเดิมนั่นแหละ จะเปลี่ยนไปหน่อยก็ตรงที่คราวนี้...เขาตั้งใจซุกหน้าเข้ากับซอกคออีกฝ่ายเต็มที่ กลั่นเสียงอู้อี้ยานคางต่อรองคนขี้แกล้งอย่างที่เคยใช้ และได้ผลดีประจำโดยไม่จำเป็นต้องลืมตา



            “..พี่มาร์ค..กากาง่วงแล้ว...”


            “ให้กากานอนนะ..”


            “...ตื่นมาแล้วจะให้อ้อน...ทั้งวันเลย..”













...แล้วความสงบสุขในการนอนก็เป็นของแจ็คสัน หวัง จนได้

แม้จะต้องรับมือกับการ 'อ้อน' ที่ผิดจากที่คิดเอาไว้ไกลโขอยู่ตลอดทั้งเช้าวันถัดมาก็ตาม...










#เศษฟิค





Comments