ROOT IF : C





ROOT IF : C


มาร์ค P.B.B. & แจ็คสัน Bed Friend






            การแช่น้ำอุ่นเป็นกิจกรรมที่ดีที่จะช่วยคลายเครียด...


            จะจริงหรือไม่ แต่โฮสต์หนุ่มก็เชื่อแบบนั้น และโดยส่วนมากแล้วมันก็เป็นความจริง เขารู้สึกสงบขึ้นในช่วงเวลานั้น การที่ได้ใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมงพักสายตาและความคิดในอ่างนั้นเป็นสิ่งที่เขาชอบทำ มันช่วยให้เขาเรียบเรียงอะไรต่างๆในหัวได้ดี ก่อนที่จะต้องออกไปรับมือกับผู้คนมากหน้าหลายตาในร้านหลังจากนี้


            ...และมันก็จะมีผลมากขึ้น หากว่าไม่มีรูมเมทเข้ามาทำลาย








            “แช่ด้วย” 


            ไม่ว่าเปล่า ร่างขาวๆนั่นหย่อนตัวลงมาพร้อมกันโดยที่ไม่รอคำอนุญาต ไม่สิ ถ้าจะคิดจะรอก็ไม่น่าจะผลักประตูเข้ามาทั้งๆที่รู้ว่าเขาอาบน้ำอยู่แล้ว ความคิดนี้จึงไม่น่าจะอยู่ในสมองของรูมเมทตัวดีด้วยซ้ำไป “มาร์ค เขยิบหน่อยดิ๊”

            “แช่อยู่.. รอไปก่อนสิ” คนใช้อ่างก่อนตอบอย่างไม่ยินดียินร้าย ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ขยับตัวไปไหน ยังคงทอดน่องสบายใจ เอนหลังพิงขอบอ่างอย่างไม่สนใจผู้มาใหม่ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ระดับการรังควาญลดลง รังแต่จะเพิ่มมากขึ้นเพราะผู้มาใหม่เห็นว่าเป็นการท้าทาย เจ้าตัวจึงพยายามเบียดตัวเองลงมาในอ่างพร้อมกันจนได้

            “น้ำจะร้อนไปไหนเนี่ย? อย่างกับพวกคนแก่แช่”

            “งั้นก็ออกไปสิ”

            “ไม่”



            โฮสต์หนุ่มได้แต่ส่ายหน้าให้กับความเอาแต่ใจของคนที่นั่ง... ไม่สิ เรียกได้ว่าแทบจะสิงเขาอยู่แล้วในอ่าง ร่างขาวๆนั่นเบียดเข้ามาจนอกแทบจะชิดกัน หย่อนสะโพกนั่งทับขาของเขาอย่างไม่มีความเกรงใจ 
            นี่ยังไม่รวมหัวที่เอนมาพิงไหล่นะ.. ให้ตายเถอะ

            “นี่มาร์ค...” 

            เสียงแหบต่ำของรูมเมทที่เหมือนมากระซิบอยู่ตรงต้นคอทำให้ชายหนุ่มเลิกคิ้ว เหลือบตามองเหมือนจะถามว่าอะไร ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตากลมโตคู่นั้นช้อนมองอย่างมีนัยยะ

“..อาบน้ำให้หน่อยสิ”

            “แขนหักเหรอ?”

            “มาร์คอ่ะ!” คำตอบทันควันนั่นทำให้คนถามขมวดคิ้วมุ่น ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่ปิดบัง “ทีกับลูกค้ายังทำได้เลย...”

คนที่ถูกเบียดเบียนอิสรภาพในอ่างอาบน้ำเหนื่อยใจเกินกว่าจะอธิบายให้รูมเมทเขาฟังแล้วว่างานที่ทำนั้นคือคุยกับลูกค้า ไม่ใช่การบริการแบบถึงพริกถึงขิงขนาดนั้น  หลับหูหลับตาตอบอย่างไม่ถือเป็นอารมณ์ “แล้วยังไง?”

“ฉันดีกว่าลูกค้านายอีกน่า..เชื่อสิ”





ประโยคล่อลวงนั่นแทบจะไม่มีผลอะไรกับมาร์ค เพราะฝ่ามืออุ่นๆที่ไต่ระดับไปตามตัวเขานั้นมีผลมากกว่าเป็นเท่าตัว มันค่อยๆไล้ลงมาตั้งแต่ต้นคอ ผ่านไปที่อก ก่อนจะเลื่อนลงต่ำไปใต้ผิวน้ำ กระทำการอุกอาจด้วยหน้าตายิ้มๆที่แสนจะไม่เข้ากันจนเจ้าของมือเรียวต้องคว้ามันเอาไว้ก่อนที่มันจะได้แผลงฤทธิ์ไปมากกว่านั้น 
ตาคมตวัดมองคนที่ทำตัวซุกซนไม่รู้เวลาตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง... แต่แน่นอน สายตาของอีกฝ่ายนั่นไม่มีแม้กระทั่งเศษเสี้ยวของความรู้สึกผิด

“ซน..”

“แล้วยังไง?”


คนซนที่ว่ายังคงเล่นลิ้น ทำหน้ายียวนไม่รู้ร้อนรู้หนาวจนคนมองอ่อนใจ ขนาดว่ามือถูกจับเอาไว้ แต่ก็ยังสามารถเบียดตัวเข้ามาชิด ส่งสายตาเชิญชวนยั่วเย้าให้ตบะแตกจนได้ เดือดร้อนคนที่เป็นเบาะนั่งในอ่างอาบน้ำต้องหลับตาลง ถอนหายใจพรูอย่างปลงตก

“ก็ไม่น่ารัก..”

“แล้วจะน่ารักไปทำไม?”


เสียงหัวเราะคิกคักของคนบนตักกับสีหน้าท้าทายนั่นช่างยียวนกวนอารมณ์คนดูเสียเหลือเกิน ไหนจะท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาวทั้งที่กำลังทำตัวสุ่มเสี่ยงอยู่แบบนี้อีก... ทั้งหมดทำให้โฮสต์หนุ่มชักจะคันไม้คันมือ อยากจะจับมาฟัดให้หายดื้อ แต่ก็กลัวว่าจะกลายเป็นตอบสนองอีกคนในทางที่ไม่ชอบไปเสียจึงได้แต่นิ่ง เลือกใช้วิธีอื่นที่ดูจะเปลืองพลังงานน้อยกว่าแทน  






“..ก็ฉันชอบคนน่ารักๆ”
"เลยอยากให้นายน่ารัก.. แค่นั้น"


ฝ่ายที่คร่อมร่างอยู่ข้างบนมีอันต้องได้เลิกคิ้วกลับบ้างในคราวนี้ นี่เป็นครั้งแรกเลยมั้งตั้งแต่รู้จักกันมาที่อีกคนจะพูดถึงรสนิยมส่วนตัวขึ้นมาบ้าง และถึงแม้ว่านั่นจะไม่มีส่วนได้ส่วนเสียหรือความจำเป็นใดที่เขาจะต้องใส่ใจ แต่แจ็คสันก็อดแปลกใจขึ้นมาไม่ได้

“หมายความว่ายังไง?”



รอยยิ้มมุมปากของคู่สนทนาดูจะเป็นคำตอบที่ไม่ถูกใจแจ็คสันนัก ร่างขาวๆที่คร่อมอยู่จึงยิ่งขมวดคิ้ว หรี่ตามองใบหน้าหล่อคมที่ยังคงอมยิ้มราวกับจับผิด หากเมื่อหันไปสบตาคู่สวยเข้าให้เท่านั้น ความรู้สึกอะไรบางที่ส่งผ่านมาผ่านลูกแก้วสีน้ำตาลอ่อนและความเงียบที่แสนจะเป็นใจนั่นก็ทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วนพิกลจนไม่สามารถมองตอบได้ เผลอเสตาหลบพลางกัดริมฝีปากตัวเองโดยไม่รู้ตัว


“..อยากให้แปลจริงเหรอ?” 

คราวนี้เป็นฝ่ายโฮสต์หนุ่มนั่นเองที่รวบเอาข้อมือของเด็กดื้อบนตักเอาไว้พร้อมกับกระเซ้าเสียงนุ่ม อีกมือก็หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดผมตัวเองด้วยท่าที่สบายๆ "ว่าไง..?"


“ม--ไม่ต้องแล้ว...!

คนเอาแต่ใจที่ตอนนี้ผิวเริ่มจะเปลี่ยนสีสะบัดเสียงตอบ ไม่รู้ว่าด้วยอุณหภูมิของน้ำในอ่างที่สูงอยู่แล้วหรืออะไร แต่นั่งผิวขาวๆนั่นแดงปลั่งขึ้นมาจนคนที่นั่งเบียดกันในอ่างเห็นได้ชัด...โดยเฉพาะที่หน้า และยิ่งมาร์คย้ำเตือนถึงการเปลี่ยนแปลง หัวกลมๆนั่นก็ฟาดลงมาบนบ่าอย่างไม่ออมแรงเป็นการตอบแทน ซุกนิ่งอยู่แบบนั้นจนคนที่จำเป็นต้องออกไปทำงานในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าต้องสะกิดเรียกเบาๆ






“...ต้องไปทำงานแล้ว” 

ชี้แจงเหตุผลไปตามจริง แน่นอนว่าคนที่เพิ่งสำนึกได้ว่ายังไม่ได้สิ่งที่ตนเองต้องการก็ดีดตัวผึงออกมาจากบ่า ตั้งท่าจะโวยวายอีกครั้งแต่ไม่ทันคนที่เตรียมรับมืออยู่แล้ว กลีบปากนิ่มนั่นจึงถูกปิดไว้ก่อนที่จะเกิดเสียงโวยวายอะไรออกมา


“อื้อ----!!!


คนดื้อก็ยังคงเป็นคนดื้อ ต่อให้ปากถูกปิดมือก็ยังพยายามที่จะขยับจนได้ แต่ในตอนที่กำลังจะเอื้อมมือไปคว้าเอาตัวคนตรงหน้านั่นก็กลับเป็นเวลาเดียวกับที่เพิ่งรู้ตัวว่า...


            มือของเขาถูกมัดรวบไว้ด้วยผ้าขนหนูที่อีกคนใช้เช็ดผมเมื่อครู่


และแย่ไปกว่านั้นคือ ปลายของผ้านั่น... ดันถูกผูกเอาไว้กับโซ่ของสะดืออ่างอาบน้ำ ซึ่งทำให้เขาในตอนนี้ไม่สามารถขยับออกห่างจากมันได้เลยในรัศมี 15 เซนติเมตร!






“มาร์ค!!





รอยยิ้มที่จุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาหลังจากปล่อยให้อีกฝ่ายได้มีอิสระในการพูดยิ่งทำให้คนที่ขยับมือไม่ได้อย่างใจหงุดหงิดจนแทบจะพังห้องได้ ปากอิ่มอ้าพะงาบๆเหมือนอยากจะด่าอะไรออกมาแต่เลือกคำไม่ถูก ซึ่งโฮสต์หนุ่มก็ไม่มีท่าทีจะใส่ใจอะไร กลับผละตัวลุกขึ้นจากอ่างช้าๆ เดินสบายๆออกจากประตูไปพร้อมกับผ้าขนหนูผืนใหม่ โดยที่ไม่ลืมทิ้งท้ายเอาไว้ก่อนจะเลื่อนมันปิดให้อย่างนิ่มนวล








"อาบน้ำรอไปก่อนนะ..."

“...ไว้กลับมาตอนเช้าจะอธิบายประโยคนั้นให้ฟัง”











#เศษฟิค




Comments