DRUNK

           





CUT SCENE 
DRUNK





           “มาร์ค... มาร์ค..”


            ริมฝีปากแดงเรื่อที่เรียกชื่ออีกฝ่ายหอบเอาอากาศเข้าเฮือกใหญ่ระหว่างนั้น ความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นจากกิจกรรมที่ทำอยู่ทำให้เหงื่อผุดพราวไปทั้งร่าง ผิวเปลือยของคนทั้งสองเบียดกันอยู่บนเตียงกว้าง ความแนบแน่นในส่วนที่เชื่อมต่อกันทำให้ร่างกายของพวกเขาไม่สามารถขยับแยกออกจากกันได้ทันที ใบหน้าของคนข้างล่างเหยแกขึ้นมานิดๆ มือพยายามดันเชิงกรานของมาร์คให้ออกห่างด้วยคิดว่าเป็นจุดกำเนิดความอึดอัด แต่ทันทีที่ขยับห่างจากกัน แรงเสียดสีในพื้นที่แสนฝืดก็ทำให้ทั้งร่างสะท้านเกร็งจนต้องโอดครวญด้วยเสียงอ้อแอ้ฟังแทบไม่รู้ความ

            “เจ็บ..! อะ เจ็บ”
     
            “ก็ดันเองนี่..” คนอายุมากกว่าหัวเราะเบาๆอย่างไม่รู้สึกผิด จับข้อมือของอีกคนให้พาดเอาไว้ที่บ่าช้าๆพลางก้มมองหน้าตาบูดบึ้งงอแงของคนข้างล่างด้วยความเอ็นดู ไม่บ่อยหรอกที่เขาจะเห็นสีหน้าแบบนี้ของเด็กคนนี้ ตั้งแต่ที่เริ่มทำงานเดี่ยว อีกคนก็อ้อนเขาน้อยลงจนแทบจะกลายเป็นไม่ทำ อย่างดีก็แค่ขอแบบสุภาพ ถ้าไม่เมาจริงๆก็คงไม่ได้เห็นแบบนี้
บางครั้งก็เหงาๆเหมือนกันนะ..


“เจ็บมากมั้ย?”
            “อื้อ...” คนอายุน้อยกว่าพยักหน้าจนผมปลิว ฝืนเปลือกตาที่หรี่ปรือขึ้นมองพลางเรียกขอสิ่งที่ต้องการ “...จูบ”
     
            ไม่ต้องรอให้ขอซ้ำ มาร์คก้มลงบดริมฝีปากของตัวเองกับเด็กน้อยตรงหน้าทันที รู้สึกตื่นเต้นกว่าเดิมหลายเท่าเมื่อเห็นการออดอ้อนอย่างน่ารักน่าชังที่ห่างหายไปนานของคนรักที่เนื่องจากไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน และนั่นก็คงจะเป็นสาเหตุที่เด็กตัวแดงตรงหน้าเบิกตากว้างพร้อมกับแยกขาออกจากกันเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เสียงร้องประท้วงในลำคอดังแผ่ว แต่กระนั้นก็ยังดูน่ารักจับใจอยู่ดี


            “..อึดอัดอ่ะ”
            “ร้อน..”
            “หายใจไม่ออก..”
            เสียงประท้วงเป็นพักๆกับหน้าตาบู้บี้ไม่ชอบใจของคนที่เพิ่งดื่มไปอย่างหนักไม่ได้ฟังดูน่ารำคาญเท่าที่ควร มาร์คยังคงอมยิ้มขำๆ มองริมฝีปากอิ่มที่เบ้คว่ำ หรือแม้กระทั่งแก้มนิ่มๆพองยู่ขึ้นอย่างไม่พอใจ ให้ตายเถอะ เขาไม่ได้เห็นแจ็คสันแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ? หนึ่งปี? สองปี? ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไหร่กันที่อีกคนเลิกงอแงกับเขา.. ทั้งที่มันออกจะน่ารักขนาดนี้แท้ๆ

            และเพราะคำบ่นนั่นแหละ ชายหนุ่มจึงเริ่มขยับตัวท่ามกลางเสียงสั่นเครือของคนข้างใต้ ความฝืดเคืองทำให้การขยับเป็นไปได้อย่างเชื่องช้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพราะเหตุนั้นเขาถึงได้รู้สึกมากกว่าเดิม ทุกๆมิลลิเมตรที่ผ่านไปมันเหมือนเขากำลังจะตายให้ได้ และคิดว่าอีกฝ่ายก็ไม่ต่างกันถึงได้จิกฟูกจนแทบจะหลุดออกมาขนาดนี้ ผนังข้างในยิ่งกว่าคำว่าแน่นกระชับ มันเหมือนจะทั้งดูดกลืนพร้อมๆกับหลอมละลายเขาพร้อมกัน ณ ตรงนั้นให้ได้เลยทีเดียว



     
            มาร์คขยับช้าๆเป็นช่วงสั้นๆ ตั้งใจจะทำให้ร่างกายของเด็กน้อยตรงหน้าคุ้นชินกับกิจกรรมที่ห่างหายไปนานเสียก่อนที่จะเพิ่มความลึกล้ำอย่างที่อยาก หากแต่ริมฝีปากแดงๆนั่นก็ครางเครือทุกครั้งที่เขาขยับเข้าออก ภายในที่ดึงรั้งราวกับจะไม่ยอมให้เขาได้ถอนถอยออกมาทำเอาชายหนุ่มต้องกัดปากสะกดกลั้นอารมณ์ – แต่ก็นั่นแหละ มันดีเกินไป สุดท้ายจึงกลายเป็นว่าเขาเผลอขยับเข้าลึกอย่างลืมตัว ชนิดที่ว่าเด็กน้อยตรงหน้าเกร็งไปทั้งตัว แผ่นหลังแอ่นโค้งขึ้นจากเตียง แข้งขาที่เกี่ยวพันอยู่กับเอวเขารัดแน่นจนไม่สามารถถอนตัวออกได้แม้แต่นิดเดียว
     
            “ขะ..ขอโทษ” คนอายุมากกว่าเอ่ยอย่างไม่เต็มใจนัก เขาก็เสียใจอยู่หรอกที่ทำให้คนตรงหน้าเจ็บ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีเกินกว่าบรรยายออกมาเป็นคำได้ เอาเป็นว่าเขายอมก็แล้วกันที่จะให้แจ็คสันด่า หากเขาจะสามารถฝังกายอยู่ในความเร่าร้อนแบบนี้ต่อไปได้อีกสักพักน่ะนะ “จะทำ...ช้าๆนะ..”


            มาร์คทำอย่างที่เขาพูดนั่นแหละ – เริ่มทุกอย่างอย่างช้าๆ อาจจะเป็นเพราะเจลชนิดน้ำที่เหือดไปบ้างแล้วตามเวลา หรือว่าปฏิกิริยาตอบสนองของคนเมาที่มักจะช้ากว่าปกติ แต่กลับเซ็กซี่อย่างร้ายกาจจนอยากมองไปตลอดก็ตาม ร่างขาวๆนั่นทิ้งตัวลงกับฟูก สั่นสะท้านอย่างน่ามองทุกครั้งที่เขาถอนกายออกจนเกือบสุดพร้อมกับเสียงครางแผ่วหวิว ก่อนที่มันจะหวีดสูงเป็นจังหวะสั้นๆในตอนที่เขาดันกายเข้าไปได้ราวๆครึ่งทางและสบกับสะโพกของอีกคนที่โถมลงมาพอดีกัน ใบหน้าที่แดงปลั่ง ครึ่งง่วงครึ่งวาบหวามทำให้ดูยั่วยวนกว่าเดิมเป็นเท่าตัว และมาร์คก็ไม่ปฏิเสธเลยว่าเขาละสายตาจากมันไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว โดยเฉพาะในตอนที่ริมฝีปากฉ่ำนั่นเรียกชื่อเขาสลับกับหอบหายใจซ้ำไปมา



            “มาร์ค... อะ มาร์ค..”
            “ดี.. ดีจัง..”

            เสียงแหบๆที่ฟังเหมือนละเมอร้องบอกในตอนที่การขยับเป็นไปอย่างลื่นไหลมากขึ้น เสียงกระทบกันของเนื้อหนังเริ่มดังจนกลบเสียงหอบหายใจได้ แต่ถึงแบบนั้น คนหูดีที่คุกเข่าอยู่เบื้องหน้าก็ยังคงได้ยินทุกประโยคจากคนเมา
     
            “หืม.. ตรงไหน?” ชายหนุ่มกระเซ้าถาม ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกับที่จงใจโยกสะโพกเข้าไปหนักๆจนใบหน้าขาวๆของเด็กน้อยสะบัดหงายไปข้างหลัง ร้องเสียงพร่าแทบไม่เป็นภาษา “ตรงนี้เหรอ? ดีเหรอ?”
     
            “อะ อื้อ..”
            หัวกลมๆที่พยักขึ้นลงหงึกหงักเป็นการตกลงนั่นดูน่ารักจนไม่เข้ากับกิจกรรมที่เป็นอยู่ แต่ก็ทำให้มาร์คได้แต่อมยิ้มเอ็นดู ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวแน่นๆแต่เนียนเพลินมือพลางก้มหน้าลงกระซิบถามระยะประชิดอย่างใจดี

            “เอาอีกมั้ย?”

            “เอา.. อ๊ะ...”
            “อื้ออออ ไม่ใช่.. ไม่ใช่แบบนี้..”

           
            “แล้วแบบไหน?”


            “อีก..”
            “อะ--- ลึกอีก..”


           
            รอยยิ้มของคนอายุมากกว่าจุดที่มุมปากอย่างมีชัย แน่นอน เขาไม่ใจแข็งขนาดจะไม่ทำตามคำขอที่น่ารักและตรงไปตรงมาขนาดนี้ของคนรักได้ลงคอหรอก หลังคำขอนั้นจึงได้ขยับเน้นๆเข้าไปหนึ่งครั้ง เล่นเอาเด็กใต้ร่างบิดเร่า รัดเขาแน่นจนหายใจแทบไม่ออก แต่เพียงแค่แป๊บเดียวก็งอแง ขอให้ทำซ้ำอีกครั้งอย่างน่ารักน่าชัง


            ...ซึ่ง ก็คงไม่ต้องบอกหรอกมั้งว่าคนอายุมากกว่าจะตอบว่าอะไร




            มาร์คเป็นคนใจดีซะด้วยสิ...





Comments