:: CUT SCENE ::
SIDE STORY
Ma Handsome II
“อ๊ะ…”
“อื้อ..! อยะ--อย่า..”
“..เอิน.. อึก!... เอิน..!”
ที่นี่ใช่สวรรค์ไหมครับ..?
แต่จะใช่หรือไม่ใช่ ผมก็ไม่แคร์แล้ว ในเมื่อคนตรงหน้าทำให้ทุกอย่างดูเหมือนสวรรค์ขนาดนี้
ผมขยับข้อมือโอบรอบความร้อนนั้นไว้หลวมๆ ก้มหน้ามองคนที่นั่งหันหลังพิงกับอกผม เอนตัวเอาหน้ามาซุกซบอยู่กับไหล่พลางสะบัดหน้าไปมาซ้ายทีขวาทีด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูง มือทั้งสองข้างขยำกำพื้นพรมแน่น ในขณะที่ผมกำลังหยอกล้อกับร่างกายของเขาด้วยการขยับมืออย่างแผ่วเบาและเนิบช้า ซึ่งนั่นน่าจะขัดใจเขามากอยู่พอสมควร มือข้างนั้นถึงได้เอื้อมเข้ามาจะจัดการตัวเองให้เสร็จๆ แต่โดนผมรั้งเอาไว้เสียก่อน
ผมยอมเสียเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็มๆก่อนหน้านี้ในการหลอกล่อเหยื่อตัวน้อยของผมให้ตกหลุมพราง กว่ากากาจะยอมให้ผมรวบตัวมาอยู่ในสภาพนี้ได้ไม่ใช่ง่ายๆนะครับ หลักฐานก็นั่น… ปากอิ่มๆที่แทบจะแดงช้ำอยู่รอมร่อ ผมจูบเขาแบบแทบจะขาดใจมากว่าชั่วโมง ถ้าไม่ขาดออกซิเจนก็คงจะเมาจูบมาราธอนนั่นแหละ บวกกับการสัมผัสจุดที่เขารู้สึกดีอยู่เรื่อยๆ กระตุ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนอารมณ์กระเจิดกระเจิง คล้อยตามสัมผัสที่มอบให้อย่างว่าง่าย
และแน่นอนว่าหลังจากนี้คือช่วงเวลาคืนกำไรของอี๋เอิน
“Shhh…” ผมกระซิบเตือนเขาเสียงเบาที่ข้างหูเมื่อคนใจร้อนเริ่มจะงอแง มือไม้ปัดไปทั่วจนต้องรั้งเอาไว้ให้อยู่นิ่งๆ และแน่นอน เมื่อทั้งมือผมและเขาต่างก็ไม่ว่าง ใครที่ไหนจะมาช่วยระบายความร้อนที่สุมในตัวเขาให้? สะโพกแน่นนั่นสั่นระริก ในขณะที่กลีบปากสีสวยร้องครวญอย่างทรมาณจนเกือบจะเป็นการสะอื้น
ผมก้มลงไปจูบมันอีกครั้ง ลิ้นเล็กๆนั่นตอบสนองผมอย่างกระตือรือร้นเหมือนกับว่าเป็นความสุขหนึ่งเดียวที่เขาคว้าเอาไว้ได้ในตอนนี้ สะโพกเปลือยขยับถูไถกับตักผมจนหายใจผิดจังหวะ หน้าอกนู่นแน่นเชิดขึ้นเผยจุดไวสัมผัสสีสวยที่ตั้งชันล่อหูล่อตาอยู่ในระยะประชิด อะไรๆที่พยายามจะควบคุมไม่ให้แตกตื่นก็พาลจะเอาไม่อยู่เสียดื้อๆ
คนอะไร.. น่ากินได้ขนาดนี้
ผมไม่ลังเลเลยที่จะสละบัลลังก์เชอร์รี่บอยของตัวเอง ถ้าไม่ติดว่าในห้องผมไม่มีอุปกรณ์ช่วยใดๆทั้งนั้น ไม่ว่าจะเจลหล่อลื่นหรือถุงยางอนามัย ก็ไม่คิดว่าอยู่ๆกากาจะมาชวนผมทำเรื่องอย่างว่าเอาวันนี้ก็เลยไม่ได้เตรียมของ
คุณจะว่าผมหัวโบราณก็ได้นะ แต่สำหรับเรื่องแบบนี้ผมใส่ใจในความปลอดภัยมากกว่าอะไรทั้งหมด ขนาดเขาแค่มีดบาดผมยังไปนั่งกดดันหมอแถมเตรียมเขียนใบคอมแพลนโรงพยาบาลหากแฟนผมมีรอยแผลเป็นขึ้นมาหลังการรักษา แล้วนี่ถ้าเกิดผมทำเขาเลือดออกหรือทำมันฉีกขาดรุนแรงหลังจากกิจกรรมบนเตียง ผมคงได้กัดลิ้นตายพอดี
ร่างขาวๆนั่นหยุดดิ้นไปพักหนึ่งเมื่อผมจูบปลอบ แต่แค่นั้นย่อมไม่พอที่จะทำให้เขาหายทรมาณจากสิ่งที่เป็นอยู่ ผมผละจากริมฝีปากที่ใกล้ช้ำเต็มที กระซิบเสียงเบาข้างใบหูขาวพลางขบย้ำเบาๆจนอีกฝ่ายครางในลำคอ
“ไม่ดื้อนะครับ..”
“ถ้าอยู่นิ่งๆ เอินจะทำให้นะ..”
เสียงร้องประท้วงสั่นพร่าในลำคอและการผ่อนแรงที่ขืนเอาไว้ลงทำให้ผมยิ้มกว้าง มือขวาเอื้อมไปแตะบนแผ่นอกกว้างที่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อจากการเข้าฟิตเนสติดๆกันเป็นปี ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยปลื้มนักหรอก แต่พอมาจับจริงๆแล้วก็อยากจะควักเงินไปสมัครต่อให้อีกสัก 5 ปี มันทั้งแน่น เฟิร์ม และเต็มไม้เต็มมือสุดๆจนอยากจะขยำให้ช้ำคามือ ถ้าไม่ติดว่ากลัวอีกฝ่ายจะเจ็บน่ะนะ
“อะ..”
เสียงร้องประท้วงที่แทบจะไม่ได้ยินในชั่วโมงแรก ตอนนี้กลับหลุดออกมาง่ายดายเมื่อผมลูบไล้เบาๆบนผิวขาวลื่นมือ และเมื่อบีบคลึงเบาๆที่จุดไวสัมผัสบนอก เสียงหอบครางหวานๆที่ผมอยากจะอัดเสียงเอาไว้ฟังเองก็ดังขึ้นที่ข้างหู อีกฝ่ายขมวดคิ้ว หลับตาแน่นเมื่อผมดึงรั้งมันแรงขึ้นจนต้องร้องครวญ และบิดร่างไปมาเมื่อผมบดมันด้วยปลายนิ้วตรงๆ
ท่อนขาตึงแน่นยังคงอ้ากว้าง เปิดเผยอะไรต่อมิอะไรที่เย้ยฟ้าท้าลูกตาผมอยู่ตรงหน้า และผมเองก็ไม่ลังเลที่จะสัมผัสมันเบาๆอีกครั้งเมื่ออีกฝ่ายยอมอยู่นิ่งๆเป็นเด็กดีให้ผมทำตามใจชอบ เพียงแค่แตะเท่านั้น ร่างขาวก็สั่นรุนแรงเหมือนถูกช็อต ของเหลวสีใสเยิ้มออกมาจากส่วนปลายที่สั่นระริกไม่ต่างจากเจ้าของ.. แต่ยังหรอก ผมคงไม่ให้เขาไปง่ายๆ
“กากา..”
ผมเรียกให้ดวงตาฉ่ำปรือนั่นหันกลับมา เขาจะรู้ไหมนะว่าตัวเองกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่ตอนนี้? อยากให้เห็นจัง.. อยากจะรู้เหลือเกินว่าหากเขาเห็นมันแล้วจะยังกล้าบอกว่าตัวเองจะรุกผมอยู่ไหม? จะยังทำตัวแมนใส่ผมอยู่อีกหรือเปล่า
“รู้สึกดีมั้ย?”
หัวกลมที่ขยับขึ้นลงแทนคำตอบทำเอาผมอมยิ้ม แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมจะพอใจได้ ผมอยากได้ยินเสียงแหบหวานนั้นตอบออกมามากกว่า
นิ้วมือที่กำรวบอยู่เปลี่ยนมาขยับถูเบาๆที่ส่วนปลาย กดคลึงหนักๆให้ดิ้นพล่าน ก่อนจะผ่อนแรงให้กลายเป็นแค่การลากปลายนิ้วผ่านเบาหวิวราวขนนก แน่ล่ะว่าคนที่อารมณ์ใกล้จะประทุเต็มทีย่อมร้องเหมือนจะขาดใจเสียให้ได้กับสัมผัสนั้น ครางเสียงกระเส่าแทบไม่เป็นภาษา
“Come on… Tell me..” ผมไม่ปฏิเสธว่ากำลังแกล้งเขา แต่เข้าใจผมเถอะ กากาน่ารักมากจริงๆในเวลาแบบนี้ น่ารักในแบบที่น่ารังแกไปพร้อมๆกัน หลอกล่อให้คล้อยตาม มอบบทลงโทษหวานๆ และให้รางวัลเป็นความสุขสุดยอดที่เขาต้องร้องเรียกหามันอีกครั้ง.. และอีกครั้ง
“..อึก..อ้ะ---” เสียงนั้นขาดช่วงไปเล็กน้อยเมื่อผมกดย้ำอีกครั้งเหมือนจะกระตุ้นให้เขารีบตอบออกมาก่อนที่คำตอบนั้นจะถูกสติสัมปชัญญะของเจ้าตัวกลั้นเอาไว้ “ฮะ.. ดี.. ดี..!”
คำตอบน่ารักๆที่ผะแผ่วเหมือนแทบจะขาดใจทำให้ผมยิ้มกว้าง จูบต้นคอขาวแผ่วเบาด้วยกลัวจะเป็นรอยให้คนอื่นมองเขาในด้านไม่ดี ปากก็เย้าแหย่ถามคำถามน่าอายที่คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่มีทางตอบในเวลาปกติ
“อยากให้เอินทำแรงกว่านี้มั้ยครับ?”
“อื้ออ!!” ผมงับเบาๆที่ใบหูนิ่ม ประคองส่วนอ่อนไหวด้านหน้าด้วยสองมือพลางไล้นิ้วช้าๆอย่างนึกหยอก และเมื่อเขาเริ่มปรับระดับลมหายใจได้ก็กำแน่น ออกแรงขยับหนักหน่วงให้รู้สึกดีจนเสียงครวญนั่นกลายเป็นหอบกระเส่าอย่างน่ารัก และเมื่อรู้สึกว่าร่างกายนั้นเริ่มจะเคลิ้มก็ลดระดับมันลงเป็นการแตะเพียงแผ่วๆอีกครั้ง
มันเป็นการกลั่นแกล้งที่โหดร้ายจนอีกฝ่ายร้องประท้วง น้ำตาคลอเบ้าด้วยความต้องการและความโมโห ตวัดตามามองผมแบบกึ่งตัดพ้อกึ่งขอร้องจนใจสั่นรัว เกือบจะยอมแล้ว..
แต่ขอเอินอีกนิดเถอะนะครับ..
“คำตอบล่ะ?”
ตากลมโตทรงเสน่ห์นั่นหันมาช้อนมองผมเต็มๆตา ริมฝีปากนุ่มกระซิบชิดพึมพำคำตอบที่อยากได้ยินหนักหนาเป็นเสียงแหบแห้ง ซึ่งนั่นทำให้ความร้อนบริเวณช่วงท้องของผมแทบจะแผดเผาไปทั้งร่าง
“Good boy...” ผมยิ้ม ตอบแทนการว่าง่ายของเขาด้วยสัมผัสแบบเต็มใจจนเสียงครางดังลั่น สะโพกเล็กหยัดขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งสูง และเมื่อมันขยับ ก้อนเนื้อนูนด้านหลังก็จะเสียดสีกับของผมไปด้วยโดยปริยาย ร้อนแรงเสียจนแทบจะอดใจไว้ไม่ไหว ลำคอแห้งผากขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลเมื่อเห็นปากสีสดที่อ้าค้างโกยอากาศเข้าปอดอยู่ตรงหน้า ชั่งใจระหว่างการได้ยินเสียงนั้นอีกระลอก กับจูบเขาอีกครั้งจนกว่าจะพอใจ
“อ๊ะ..อะ--เอิน...!”
สุดท้าย ความอยากได้ยินก็ชนะจนได้ ผมกัดปากตัวเองข่มใจเอาไว้ไม่ให้รังแกอวัยวะยั่วยวนตรงหน้า ในขณะที่ออกแรงรูดรั้งความร้อนของอีกคนหนักๆแต่เนิบช้าเพื่อจบการทรมาณที่ยาวนานนี้ลงไปพร้อมกับบีบเคล้นเนื้อตัวชื้นเหงื่อของอีกฝ่ายไปพร้อมกัน เรียกเสียงรัญจวนที่ผมคงเสพติดมันไปแล้วให้หลุดออกมาจากริมฝีปากคู่สวย กระซิบพึมพำที่หลังคอของคนรักที่คงไม่มีสติเหลืออยู่เท่าไหร่นักในตอนนี้ ก่อนจะยอมให้เขาไปถึงฝั่งฝันที่ต้องการในที่สุด
Comments
Post a Comment