BED FRIEND : 001



001



ใครๆก็รู้ว่าผมกับแจ็คสันสนิทกัน..

เรารู้จักกันตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ของเราเป็นเพื่อนกัน บ้านเราอยู่ติดกัน แถมเรียนที่เดียวกันตั้งแต่อนุบาลยันมหาลัย

ดังนั้น ไอ้เรื่องที่เราจะเข้าทำงานในบริษัทเดียวกัน และแชร์คอนโดห้องเดียวกัน นั่นไม่ได้แปลกเลยสักนิด






               “มาร์ค จะไปซื้อของ เอาไรป่ะ?” รูมเมทของผมถามในขณะที่จัดแจงสวมเสื้อฮู้ดทับเสื้อยืดสีเทาย้วยๆของผมที่มันใส่อยู่ เป็นแบบนี้ตลอดอ่ะ ทุกวันนี้ไม่รู้ว่ามันจงใจเอาไปหรือเพราะซักผ้ารวมกันจนแยกไม่ออกแล้วว่าของใครเป็นของใคร เราถึงได้แย่งเสื้อกันใส่อยู่เรื่อย

               “ฝากซื้อบุหรี่หน่อย” ผมพูดทั้งๆที่ตายังอยู่กับมือถือ นิ้วกดพิมพ์แชทตอบกลับคู่สนทนาในนั้นไป อีกมือล้วงกระเป๋าเงินโยนไปอีกฟากของโซฟา “เอาถุงยางด้วยกล่องนึง แบบบางนะ”

               เสียงหัวเราะเบาๆของอีกคนไม่ได้ทำให้ผมสะทกท้านแต่อย่างใด ไม่แม้กระทั่งคำแซวกวนๆจากปากสีสดนั่น “ทำไม? กลัวแบมท้อง?”

               “ถุยเถอะ”

               แบมแบมคือแฟน.. เอ จะเรียกว่าแฟนดีไหม เอาเป็นว่าเป็นคนที่ผมกำลังคุยๆอยู่ตอนนี้ก็แล้วกัน เพิ่งเจอได้ราวๆสองอาทิตย์ ผมคิดว่านั่นก็เป็นเวลาพอสมควรแล้วที่ให้อีกฝ่ายได้ทำใจและเริ่มความสัมพันธ์อย่างอื่น คนเรารอนานไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะครับ ชีวิตมันสั้นจะตาย

               “ไปละ”

               เสียงเอ่ยทิ้งท้ายแค่นั้น ก่อนที่ประตูห้องจะปิดลงและห้องกลับสู่ความสงบอีกครั้ง ผมโยนมือถือที่บทสนทนายังค้างอยู่ทิ้งไปอีกฝั่งของโซฟา ถอนหายใจยาวอย่างเหนื่อยหน่าย




               เมื่อวานงานยุ่งชิบหาย การทำงานช่วงเปิดโปรเจคใหม่คือนรกที่ผมอยากจะกดข้ามมันไปให้เร็วๆ เนื่องจากหัวหน้าแผนกเพิ่งจัดทีมให้ใหม่ ได้ลูกทีมเป็นเด็กเพิ่งจบมาสองคนที่แม่งทำงานไม่ได้เรื่อง โปรเจคที่เสนอไปก็เลยโดนตีกลับเพราะแม่งจัดการบ้าบออะไรไม่ได้สักอย่าง ขนาดให้ทำงานที่ง่ายที่สุดแล้วก็ยังพลาด พอพรีเซนต์แล้วโดนหัวหน้าแผนกจิกเข้าให้ก็ไปไม่เป็น ไอ้คนอื่นๆที่อยู่ในทีมแม่งก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย กลายเป็นว่าต้องมานั่งแก้นั่งดูกันใหม่หมดอีก


               แถมบุหรี่ก็หมด..

               ใช่ อันนี้คือประเด็นสำคัญ การที่ผมขาดความเย็นของมาร์ลโบโรกล่องสีดำเขียวนั้นเปรียบได้กับหายนะครั้งใหญ่ของโลก ปกติความเย็นซาบซ่านถึงก้านปอดของมันจะช่วยผมไว้เสมอเวลาที่หัวร้อนมากๆจนอยากจะอาละวาด ผมก็รู้แหละครับว่าการใช้อารมณ์ในที่ทำงานมันไม่ดี ดังนั้นเวลาที่รู้สึกว่าปรี๊ดจริงๆเลยจะหนีออกไปดูดซัก 15 นาทีค่อยกลับมาทำงานต่อ

               แต่เมื่อวานนี่หัวร้อนกับคนไม่พอ ยังต้องมาหัวร้อนเพราะขาดบุหรี่อีก


               ลูกทีมผมเกือบได้ไปเกิดใหม่กันยกชุด แต่โชคดีที่แจ็คสันมันขึ้นมาหาที่แผนกแล้วจัดการลากคอผมออกไปดื่มเสียก่อน พวกนั้นถึงได้โดนแค่อารัมภบทเบาๆไปเท่านั้น
               แต่ก็คงซึ้งกันไปพอสมควร วันนี้ถึงได้ส่งข้อความมาขอโทษกันยาวเป็นหน้ากระดาษแบบเมื่อกี้






               ผมนอนเปื่อยไปนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่รู้อีกทีคือรูมเมทผมกลับเข้ามาพร้อมถุงพลาสติกใบใหญ่สองสามถุง ท่าทางแจ็คสันก็มีของที่ต้องซื้อของมันเองเยอะอยู่เหมือนกัน

               “มาร์ค แบล็คเมนทอลหมดว่ะ” มันประกาศ และนั่นก็ทำให้เส้นเลือดที่ขมับผมดีดผึง “เลยซื้อไอซ์บลาสต์มาแทน ลองดูดอันนี้--- เฮ้ยยยย!
               เสียงสุดท้ายนี่ไม่ต้องถามครับ ผมเป็นคนกระชากมันเข้ามาเอง


               “ใจเย็นดิวะ! ของหล่นหมด!”

               ก็ไม่เห็นมันจะเป็นไร ของหล่นแล้วยังไง ไม่มีบุหรี่ดูดมันทรมานกว่าอีก ทำไมเรื่องแค่นี้ไม่เข้าใจ? แล้วนี่ซื้ออะไรมาให้ก็ไม่รู้ แทนกันได้ที่ไหน



               “เออ พอๆ ไม่ต้องมามองแบบนั้น..” แจ็คสันมันคงเห็นหน้าตาผมดูไม่ไหวจริงๆนั่นแหละครับถึงได้ยอมถอย วางถุงพลาสติกสองสามถุงใหญ่ลงกับพื้น รูดซิปเสื้อฮู้ดสีดำตัวหนาออกโยนทิ้งไปข้างตัวอย่างไม่แยแส “ถ้าจะหงุดหงิดขนาดนั้นนะ..”

               แขนขาวๆนั่นพาดลงกับไหล่ผม มือดันท้ายทอยให้เข้าไปใกล้พลางถอนหายใจใส่หน้าผมเสียยาวอย่างกับไม่เต็มใจ ทั้งที่ก็ทำออกจะบ่อย



               “ดูดไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปซื้อบนห้าง”







-----------------------------------------------------------------------------------------------







               “ซี้ดดด เจ็บๆๆๆ”

               ช่วงนี้เริ่มใกล้หน้าหนาวแล้ว ลมแรงเป็นบ้า ผมกับคนข้างๆที่เดินฝ่ากระแสลมอยู่กลางถนนแบบนี้เลยสะท้านไปทั้งตัว ยิ่งคนที่ปากแตกเป็นทุนเดิมอยู่แล้วยิ่งไปกันใหญ่ คงแสบซี้ดน่าดูเลยล่ะ

               “โทษที..”

               “ถ้ารู้สึกผิดจริงก็เลิกดูดแรงๆสิวะ”

               เหอะ.. ชาตินี้ผมคงทำไม่ได้หรอก สงสัยจะไม่ได้รู้สึกผิดจริงๆด้วยแฮะ



               อย่างที่ได้ยินแหละครับ เมื่อไหร่ที่ผมบุหรี่ขาดช่วง คนแถวนี้โดนดูดปากแทนทุกที หรือบางทีก็มากกว่าปากด้วยก็มี

               ไม่รู้ว่าพฤติกรรมนี้ของพวกเราเริ่มขึ้นเมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีทุกครั้งที่ผมอารมณ์ไม่ดี หรือเริ่มจะหงุดหงิดกับอะไรบางอย่าง แจ็คสันจะลากผมออกมาจากจุดเกิดเหตุ และหามุมดีๆที่คนจะไม่เห็นเพื่อจูบผมอย่างนุ่มนวลเพื่อดับอารมณ์ที่คุกรุ่นให้เย็นลงเสมอ หรือบางทีที่ผมโมโหมากๆก็อาจจะไปดึงตัวเขามาและระบายอารมณ์กับกลีบปากสีสดนั่นบ้างเหมือนกัน

               อย่างที่บอก ผมเป็นคนอารมณ์ร้อน และคนที่รู้จักผมจะรู้ดีว่าถ้าผมได้โมโหแล้วล่ะก็ ทางรอดของพวกมันจะมีอยู่ทางเดียว นั่นคือ ‘หาแจ็คสันให้เจอ’ ไม่อย่างนั้นก็เตรียมตัวลงนรกได้เลย

               มีแค่แจ็คสันเท่านั้นแหละที่ทำให้ผมเย็นลงได้ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน..


               แต่อย่าได้คิดว่าผมกับมันเป็นอะไรกันเชียว เราเป็นแค่รูมเมทกันเท่านั้น แค่รู้จักกันมานานเท่าอายุของเราทั้งคู่ ดังนั้นไม่ว่าจะทำอะไรผมก็คิดว่าอีกฝ่ายก็เฉยๆกับมันเสียแล้ว เหมือนกับผมที่เฉยๆเวลาแจ็คสันดึงผมเข้าไปจูบแก้หงุดหงิดตอนอารมณ์ไม่ดีนั่นแหละ ก็วิน-วินกันทั้งคู่นะ

               แต่เมื่อกี้ผมคงจูบแรงไปหน่อยจริงๆ กลิ่นช็อคโกแลตยังติดปากอยู่เลย



               เราแวะที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใกล้ๆคอนโดเพราะขี้เกียจออกไปไหนไกล วันหยุดหน้าหนาวแบบนี้ไม่เหมาะกับการออกมาเดินเร่ร่อนแม้แต่น้อย แถมในห้างก็มีคนเต็มไปหมดเพราะฮีทเตอร์ทำงานอยู่ พวกของประดับตกแต่งรับเทศกาลฮาโลวีนเต็มไปหมดจนทั้งห้างดูจะเป็นสีดำส้มไปมันทุกชั้น

               “คนเยอะว่ะ..” ผมบ่นอุบ ในขณะที่คนข้างตัวดูตื่นตาตื่นใจเหลือเกินกับพวกดิสเพลย์ในห้างที่เป็นฟักทองสีส้มๆ ทำตัวเป็นเด็กไปได้ อย่างกับว่านี่เป็นฮาโลวีนครั้งแรกในชีวิต

               “แจ็คสัน มาเร็ว”
               ผมเรียกไอ้คนที่ยังมองฟักทองยักษ์ตรงนั้นให้รีบตามมา ถึงผมจะทำมันปากแตกไปรอบนึง แต่ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่หงุดหงิดอีกนะ.. ยิ่งขาดนิโคตินยิ่งหงุดหงิดง่าย ไม่เข้าใจรึไง?


               ดูเหมือนอีกคนจะยังติดพันเหลือเกินกับไอ้ของหลอกเด็กนั่น ผมที่ทนไม่ไหวเลยเลือกที่จะทิ้งมันไว้ตรงนั้นแล้วเดินลงไปซื้อบุหรี่ที่ชั้นล่าง เดี๋ยวถ้ามันได้สติก็โทรตามเองแหละ ใช่ว่าเพิ่งจะเคยโดนเป็นครั้งแรกเมื่อไหร่

               โซนข้างล่างเป็นเหมือนซุปเปอร์มาร์เกตย่อมๆ ผมตรงเข้าไปหาแคชเชียร์และบอกยี่ห้อบุหรี่ที่ต้องการ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ของขาดอีกเลยซื้อมันมาทีเดียว 5 กล่อง ถ้ายังต้องทำงานกับพวกเด็กเปรตนั่นต่อก็มีเรื่องให้ปวดหัวอีกแน่ๆ ดีไม่ดีไอ้ห้ากล่องนี่จะหมดเร็วกว่าที่คิดอีก

               ผมมองพนักงานที่เปิดชั้นวางพลางหยิบบุหรี่ยี่ห้อโปรดของตัวเองออกมาให้ ข้างๆกันนั้นเป็นอีกยี่ห้อหนึ่งที่แจ็คสันชอบสูบแต่ไม่ใช่กลิ่นประจำของเจ้าตัว แจ็คสันน่ะสูบกลิ่นช็อคโกแลต แต่อันที่ผมเห็นเป็นกลิ่นผลไม้ที่ผมไม่ชัวร์ว่าเชอร์รี่หรืออะไร แว่นไม่ได้ใส่เลยมองไม่ชัด

               พอเห็นกล่องสีขาวแดงนั่นแล้วก็อดนึกถึงมันไม่ได้… ปากแดงสดทั้งที่ดูดบุหรี่จัดพอๆกันบนตัวขาวๆ

               อืม..


               “เอานั่นด้วยกล่องนึงครับ”





-----------------------------------------------------------------------------------------------





               “คิดยังไงซื้ออันนี้มาให้?”

               รูมเมทผมเลิกคิ้ว แต่มือก็คีบบุหรี่หน้าตาต่างไปจากที่เคยสูบขึ้นมาคาบไว้ หันมาหาผมเพื่อต่อไฟจากปลายมวนที่คาบเอาไว้โดยไม่ต้องควักไลท์เตอร์มาจุดให้เสียเวลา เปลวไฟสีส้มแดงค่อยๆไล่ลามบนเนื้อกระดาษสีขาวจนควันลอยขึ้นช้าๆ

               “ไม่รู้..”

               ผมเลี่ยงคำตอบ เงยหน้าขึ้นพ่นควันออกจากปากอย่างพอใจกับความเย็นและเข้มของบุหรี่ยี่ห้อโปรด มันเย็นไปทั้งตัวจนรู้สึกเหมือนอาบน้ำเย็นๆ หัวโล่ง สมองปลอดโปร่ง รู้สึกดีขึ้นเยอะ “ดูดๆไปเหอะ ชอบหวานๆนี่”

               “มันคนละแบบกัน” อีกฝ่ายเท้าแขนกับขอบระเบียง วิวข้างนอกที่มืดลงและมีแค่แสงไฟจากตามตึกต่างๆทำให้ผมมองเขาไม่ชัดเท่าไหร่ เราก็ไม่ได้เปิดไฟเสียด้วย “อันนี้เปรี้ยวๆหน่อย ไม่ค่อยโอเค”



               ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ ขี้เกียจจะเถียง และถ้าอีกคนไม่โอเคกับมันจริงๆจะขยี้ดับแล้วไปจุดตัวที่ชอบผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่แรงสะกิดบนไหล่ให้หันไปหานั่นก็เรียกให้ต้องหันไปจนได้

               “เฮ้ย..!”

               ผมโวยเบาๆเมื่อถูกอีกฝ่ายดึงบุหรี่ลูกรักออกจากปากแบบไม่บอกไม่กล่าว และก่อนที่ผมจะได้เอ่ยอะไรออกไปต่อจากนั้น ริมฝีปากนุ่มก็ปิดทับลงมา พร้อมกับควัน...และรสหวานอมเปรี้ยวของเชอร์รี่ สตรอเบอร์รี่… หรืออะไรก็ช่างมันเถอะ


               ผมหรี่ตามองคนที่ขัดจังหวะการรับนิโคตินของตัวเองที่ยักคิ้วให้อย่างท้าทายตรงหน้า แถมยังมากัดปากผมเบาๆอย่างขี้แกล้ง ไม่ยอมผละออก และไม่คืนบุหรี่ด้วย
               แม่ง…

               ผมรวบเอวอีกคนเข้ามาหาด้วยแขนข้างที่ใกล้ตัวมันที่สุด ก่อนจะบดจูบลงไปให้แรงขึ้น รู้สึกได้ว่าแผลบนปากอิ่มนั่นปริแตกอีกครั้งจนได้รสเลือดจางๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจ เอียงคอเข้าชิดก่อนจะสอดลิ้นเข้าไปลงโทษคนที่มาขัดความสุขในวันหยุดของตัวเองด้วยการดึงรั้งลิ้นเล็กๆนั่นแรงๆให้หายใจไม่ออก ดูดริมฝีปากนุ่มนิ่มนั่นหนักๆทั้งบนทั้งล่างจนแจ็คสันครางฮือ และร้องโอดโอยเมื่อผมกัดดึงมันซ้ำ บังคับให้เขาอ้าปากออก

               “ม..มาร์ค เจ็บ..”

               น่าเชื่อตายเลย เจ็บบ้าอะไรเสียงแม่งจะเคลิ้มขนาดนี้..


               “อย่ากัดแรงดิ รู้ว่าเขี้ยวคมก็เบาๆหน่อย..”


               “ต้องฟังเหรอ?” ผมผละออกจากปากแดงๆนั่น ก่อนจะไล้ริมฝีปากตัวเองไปทั่วผิวขาว แปลก.. มองก็ไม่เห็น แต่ผมรู้ว่าแจ็คสันต้องทำหน้าเคลิ้มมากอยู่แน่ๆ โดยเฉพาะเวลาที่ผมจูบไปทั่วต้นคอของเขาแบบนี้ “คนที่ยึดบุหรี่คนอื่นไปแบบนี้เนี่ย..”


               ผมกัดซ้ำเข้าที่ผิวอ่อนบริเวณต้นคอและไหล่ เขาใส่เสื้อกล้ามอยู่แล้ว เพียงแค่รูดมันลงจากไหล่เท่านั้นผมก็มีพื้นที่รังแกเขาได้เหลือเฟือ ดูดกัดไปทั่วทั้งต้นแขน หัวไหล่ และไม่ลืมที่จะกลับขึ้นไปจูบแรงๆที่บริเวณหลังใบหูที่มักจะทำให้เขาสะท้านไปทั้งตัว มือสอดเข้าใต้เสื้อกล้ามกำลังจะสานต่อกิจกรรม แต่เสียงปรามเบาๆก็ดังขึ้นขัด

               “เฮ้ย พอแล้ว..” ว่าพลางยื่นบุหรี่ของผมที่ไฟเริ่มลามกินมาเกือบจะครึ่งมวนคืนมาให้ เพิ่งสังเกตว่าอีกคนเอาบุหรี่ของตัวเองกลับไปคาบไว้ในปากอย่างเคยแล้ว “เอาไปดูดให้หมดไป ร้อนมือโว้ย”


               ผมหัวเราะเบาๆก่อนจะรับมันกลับเข้ามาในปาก อารมณ์ดีขึ้นเยอะหลังจากได้ดูดทั้งบุหรี่และ..คนข้างๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นมากกว่ากัน





ใครๆก็รู้ว่าผมกับแจ็คสันสนิทกัน..
เรารู้จักกันตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ของเราเป็นเพื่อนกัน บ้านเราอยู่ติดกัน แถมเรียนที่เดียวกันตั้งแต่อนุบาลยันมหาลัย
ดังนั้น ไอ้เรื่องที่เราจะเข้าทำงานในบริษัทเดียวกัน และแชร์คอนโดห้องเดียวกัน นั่นไม่ได้แปลกเลยสักนิด


และถ้าเราจะจูบกันแก้เครียดเป็นกิจวัตร นั่นก็ไม่แปลกเหมือนกัน..








*-----------------------------------------------------------------------------------------------*








อยากลองเขียนอะไรแบบนี้บ้างอ่ะ.. //อย่าตบเรา...
คือเครียด และโดนขังในห้องประชุม... พล็อตถึงได้งอกออกมา TTvTT
(ตอนแรกคิดว่าจะสลับไปมาระหว่างจาร์คกับมาร์คสัน แต่โดยส่วนตัวแล้วอยากฟัดน้องหวังมากกว่า เลยมาร์คสันละกัน)


ยังไงก็ฝากด้วยจ้ะ


#มสเพื่อนร่วมเตียง
 



 

LI5HT

Comments