:: CUT SCENE ::
- XXIV -
“น้ำตาไหลแล้ว..”
เสียงทัก พร้อมกับการเช็ดออกอย่างเบามือของคนตรงหน้าทำให้ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ ลมหายใจยังขาดห้วง และดูเหมือนว่ามันจะขาดไปอีกหลายๆห้วง ในเมื่ออะไรๆข้างล่างมันยังคงเบียดดันเข้ามา ทั้งอึดอัด ทั้งร้อนจนตาพร่าไปหมด ขนาดที่ว่าผมหลับตาแน่นขนาดนี้ น้ำตายังไหลออกมาได้อีก
ลืมความรู้สึกเย็นๆของเจลเมื่อกี้ไปได้เลยนะ ตอนนี้ผมว่าแม่งไม่ช่วยอะไรเมื่อเอินดึงนิ้วออกและพยายามใส่อย่างอื่นเข้ามา ผมพยายามจะไม่คิดถึงความแตกต่างระหว่างถุงยาง 2 เบอร์ของเรา แต่เมื่อมันมาจ่อ..และดุนเข้ามาแบบนี้ผมก็รู้สึกเหมือนจะตายให้ได้
ผมเหมือนถูกจับแยกร่างออกจากกันอย่างไรอย่างนั้น ไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกทั่วๆไปที่ต้องมีอยู่แล้ว.. หรือเพราะขนาดที่.. เกินมาตรฐานไปไกลอยู่พอสมควรของเอิน ผมเลยรู้สึกแบบนี้ เจ็บหน่วงไปหมดจนน้ำตาร่วง เดือดร้อนคนตรงหน้าให้หยุดการกระทำ และขยับเข้ามาจูบปลอบซ้ำเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
“เจ็บใช่มั้ยครับ.. ไม่เป็นไรนะ..”
แล้วดูสิคุณ แฟนผมแม่งโคตรน่ารัก.. ถึงเสียงจะสั่นจะพร่าแค่ไหนแต่ก็ยังมีกระจิตกระใจมาโอ๋ผมอยู่ดี เอินหยุดทุกครั้งที่ผมเจ็บอย่างที่เคยบอกไว้ มือบีบลูบไปทั่ว กดจูบลึกล้ำให้หายเกร็งก่อนจะเริ่มทุกอย่างใหม่
เราอยู่แบบนี้กันมาเกินห้านาทีแล้ว และผมก็คิดว่ามันนานเกินกว่าที่จะรอได้ ดูหน้าเอินสิ.. ดูใกล้จะหมดความอดทนเข้าไปเต็มที เหงื่อผุดพรายยิ่งกว่าเพิ่งไปออกกำลังกายมาทั้งที่เราก็เปิดแอร์ ผมเห็นน้องพยายามหายใจเข้าลึกเหมือนคุมตัวเองสุดชีวิตก่อนจะค่อยๆเริ่มใส่มันเข้ามาอีกครั้ง
“..อึ่ก!!”
ความเจ็บหน่วงที่ไม่ว่ายังไงก็คงไม่มีทางหายไป.. แต่มันก็ทำให้เอินชะงักอีกแล้ว มวลความร้อนที่สอดดันเข้ามาได้เพียงเสี้ยวหนึ่งจึงหยุดนิ่งค้าง ตั้งท่าจะถอนถอยออกไปอีกครั้ง
แต่.. ผมไม่รอแล้ว
“เอิน..” ผมตะปบมือลงไปบนแขนอีกฝ่าย หายใจถี่รัวเมื่อรู้สึกว่าความอึดอัดของเอินที่ยังค้างอยู่ มันเต้นตุบตับไปตามจังหวะการหายใจ ถี่และร้อนเหมือนจะระเบิด “..พอ.. ไม่ต้อง..”
“ใส่เข้ามาเลย..”
ตาคู่สวยที่เบิกกว้างขึ้นกับสีหน้าเหวอๆของเอินทำเอาผมหน้าร้อนแทบไหม้ ตะ..แต่คุณจะให้ผมพูดอะไรล่ะ? ในเมื่อที่เราทำอยู่ตอนนี้มันติดขัดไปหมดจากจุดๆเดียว และติดมาหลายครั้งแล้ว ถ้าผมเคลียร์มันไปได้เราก็จะไปต่อได้..ไม่ใช่เหรอครับ?
อีกอย่างก็เพราะ... ผมสงสารเอิน
น้องใช้เวลากับผมมาก ละเมียดละไมที่สุดในทุกขั้นตอน ตั้งแต่สัมผัสแรก ตอนที่ผมทำกับผู้หญิงคนอื่นผมก็ไม่ขนาดนี้อ่ะพูดเลย ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนที่ใช้เวลาเป็นชั่วโมงกับเรื่องแบบนี้ จนกระทั่งเจอเอินนี่แหละที่ทนเก่งเป็นบ้า
“ไหวแน่นะครับ?” คิ้วที่ขมวดกันเป็นปมบนหน้านั่นดูเป็นห่วงมากจริงๆจนผมต้องพยักหน้ายืนยัน ยืดแขนโน้มคอเอินเข้ามาใกล้ๆจนหน้าเราห่างกันไม่ถึงคืบจนสังเกตได้ถึงแววตาที่ไม่มั่นใจของอีกคน “ถ้าเจ็บล่ะ..?”
“..ได้น่า”
เรื่องเจ็บน่ะมันต้องเจ็บอยู่แล้วนี่ แต่เจ็บมากเจ็บน้อยเท่านั้น ซึ่งผมคิดว่ากรณีผมน่ะถือว่า เจ็บน้อยโคตรๆ แน่ๆ
“..เร็ว..”
“..พี่ จะไม่ไหวแล้--อื้อออ!!”
ผมไม่เข้าใจว่าเอินตีความประโยคนั้นว่ายังไง แต่ผมขอสาบานไว้ตรงนี้ว่า..ไม่ไหวของผมคือมันนานจนเมื่อยขาแล้ว ไม่มีความหมายอื่น...
และหลังจากที่เอินจูบลงมาปิดท้ายประโยคนั้น ไอ้สิ่งที่ค้างคาอยู่เกือบห้านาทีก็เคลื่อนขยับเข้าลึกจนผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ และนั่น...คือนาทีสุดท้ายของการนอนเฉยๆของผม
“เอิน.. อ๊ะ..!”
“อึ่ก...!! ฮะ…เอิน...!!
เสียง (ที่ก็ไม่อยากจะยอมรับว่าเป็นของตัวเองเลยให้ดิ้นตาย) ที่ตะกุกตะกักและขาดห้วงนั่นไม่ได้ช่วยให้อะไรเปลี่ยนไป ร่างของผมขยับไหวไปตามแรงกระทั้นเนิบๆแต่ลึกล้ำของคนตรงหน้า ในขณะที่เอินยังคงโฟกัสอยู่กับการยกสะโพกผมขึ้นวางบนหน้าขาอีกฝ่าย และกดร่างย้ำเข้ามาลึกกว่าเดิมจนเสียงผมหวีดสูงขึ้นมาแบบไม่ได้ตั้งใจ
ผมทันเห็นรอยยิ้มของเอินอยู่แค่ครู่เดียวเท่านั้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะเริ่มขยับเร็วขึ้น มันไม่ได้เร็วเหมือนที่เราเห็นกันใน AV ทั่วไปหรอกครับ ช้ากว่านั้น.. แต่มันโคตร...ดีเลย ดีจนไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะดี ดีจนผมไม่รู้จะทำอะไรได้นอกจากอ้าปากคราง บิดตัวไปมาและระบายอารมณ์กับหมอนบนเตียงจนมันแทบจะขาด เรียกชื่ออีกคนพร้อมกับร้องขอจูบทั้งที่หายใจเฉยๆก็จะไม่ทันอยู่แล้ว แน่นอนว่าเอินไม่ลังเลเลยที่จะทำตาม
“อื้มม..”
เสียงถอนหายใจอย่างพึงใจของเอินทำเอาผมรู้สึกไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้ ร่างกายมันเกร็งรัดไปเองจนเอินขมวดคิ้ว หายใจหนักขึ้นอีกสองสามเสต็ป “อา.. อย่ารัด...ขนาดนั้นสิครับ…”
ผมอยากจะบอกเหมือนกันว่าบังคับได้ที่ไหนล่ะ มันเป็นไปเอง! แต่สิ่งที่ค้างอยู่ในร่างนั่นก็ถอนออก และสวนแทงเข้ามาซ้ำอีกครั้ง รู้สึกเสียวแปลบตั้งแต่สะโพกยังสมอง ไอ้เจ็บไม่เจ็บน่ะไม่ใช่ประเด็นแล้วตอนนี้ มันกลายเป็นว่าผมหายใจจะไม่ทันเอาจริงๆ ในเมื่อเอินยังคงขยับแบบนี้ และเบียดลงมาในจุดที่ทำให้ผมต้องร้องครางครั้งแล้วครั้งเล่า แถมยังทวีความรุนแรงมากขึ้นจนตัวแทบจะไม่ติดเตียง และยิ่งตอนที่เอินปล่อยมือจากต้นขามาเท้าแขนลงคร่อมตัวผม โยกเอวกระแทกเข้ามาลึกกว่าครั้งไหนๆนั่นทำเอาหลังผมลอยขึ้นจากเตียง มือกระชากผ้าปูเตียงจนหลุดติดมือขึ้นมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว รู้สึกอย่างกับโดนไฟช็อตจนชาไปทั้งร่างจนไม่มีแม้แต่เสียงที่จะออกจากคอ
ตาผมเบิกโพลง หายใจถี่หนัก มองหน้าคนที่คร่อมอยู่เหนือตัวเองด้วยอาการตกใจและ..ไม่รู้จะอธิบายยังไง เอาเป็นว่าผมตกใจ! เข้าใจตามนี้ก็แล้วกัน และสีหน้าในตอนนั้นมันก็คงจะดูตลกมากเอินถึงได้หัวเราะเบาๆ ก้มลงมาจูบซ้ำอีกครั้ง
“...ดีขนาดนั้นเลยเหรอครับ?”
ผมไม่เข้าใจความหมายของมันในทีแรก แต่เมื่อเอินแตะมือลงมาที่หน้าท้อง ไล้มือบนอะไรบางอย่างลื่นๆที่เคลือบอยู่บนนั้นพร้อมกับยิ้มมุมปากผมก็หน้าร้อนขึ้นมาทันที
“ไปก่อนเอินอีกแล้ว..”
“...ชอบให้ทำแรงๆงั้นสิ?”
ผมส่ายหน้าเป็นพัลวัน แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าไอ้คราบขุ่นๆบนตัวนั่นเป็นของใครคนอื่นไปได้ ผมไม่เห็นรู้ตัวเลยว่า..เอ่อ.. นั่นแหละ เพราะอารมณ์ที่มีอยู่ก็ยังไม่คลายลงสักนิด มันยังคงอยู่ในสภาพพร้อมเหมือนเคยจนน่าแปลกใจ ยิ่งเอินจับมันบีบรูดเบาๆซ้ำผมยิ่งรู้สึกดีจนสั่นไปหมด บิดเร่าไปด้วยความอยากที่สุมล้นแม้ว่าจะเพิ่งปล่อยไปเมื่อครู่
“...น่ารัก..”
คำชมจากคนที่คร่อมอยู่บนตัวทำเอาผมใจเต้น และถึงมันจะเต้นแรงจนผมคิดว่าหนักกว่านี้คงจะตายแน่ๆ แต่เอินก็ทำให้มันเกินลิมิตไปอีกจากการบีบขยำไปทั่ว พร้อมกับเรียกชื่อผมซ้ำๆในทุกจังหวะที่จูบไปบนผิว จนกระทั่งมันจบลงเมื่อเอินผละออกจากปากผมเป็นที่สุดท้าย
ผมแทบจะลืมวิธีหายใจในตอนที่เอินช้อนเข้าใต้ข้อพับเข่าและดันมันออกกว้าง เปิดเผยร่างกายที่แต่เดิมก็ไม่มีอะไรปกปิดอยู่แล้วให้มากไปอีก ใจผมอยากร้องประท้วงแทบตาย แต่เมื่ออีกคนขยับเท่านั้น เสียงที่ออกมากลับกลายเป็นอย่างอื่น
ไม่รู้ว่าเอินทำอะไรกับร่างกายผม แต่จุดที่เอินกระแทกเข้ามาเมื่อครู่มันทำเอาผมจะเป็นบ้า ร่างทั้งร่างกระตุกสั่น สมองขาวโล่งจนคิดอะไรไม่ออก ได้แต่คว้าดึงอะไรเอาไว้เป็นที่ยึดพลางมองช้อนขึ้นไปหาคนตรงหน้าที่ยิ้มละไมกลับมา
“...เจ็บเหรอ?”
ผมส่ายหน้า กัดปากกลั้นเสียงครางที่พร้อมจะหลุดออกมาทุกวินาทีเพราะความร้อนที่แช่นิ่งอยู่ตรงจุดนั้น มันเข้าไปลึกเท่าไหร่ผมไม่รู้เพราะอึดอัดไปหมด ร้อนไปทั้งตัวจนอยากจะขอให้อีกคนรีบๆทำ
“งั้น..รู้สึกไม่ดี?”
ผมส่ายหน้าอีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่สามารถห้ามเสียงครวญในลำคอได้อีกต่อไปเพราะเอินโน้มตัวเข้ามาใกล้จนแทรกเข้ามาลึกกว่าเดิม มันรู้สึกดีมากจนไม่อยากจะยอมรับ ดีจนเกลียดร่างกายตัวเองแล้วแม่ง.. อะไรจะรู้สึกง่ายขนาดนี้วะ
เอินยังคงยิ้มหวาน กระซิบเสียงแหบพร่าชิดหูผม..
ซึ่งในวินาทีนี้ มันฟังดูราวกับเวทมนต์ที่ใช้หลอกล่อให้ผมลืมนึกถึงเหตุ ผล และทิฐิความคิดทุกอย่างบนโลก
“...ก็บอกแล้วไงครับ ว่าถ้ารู้สึกดี”
“ให้เรียกชื่อเอิน..”
* --------------------------------------------------------------------------------------------------------------- *
อ่านต่อตรงนี้จ้ะ
อ่านต่อตรงนี้จ้ะ
Comments
Post a Comment